บทความ

การออกหมายเรียกตามมาตรา 19
ศุภชัย บำรุงศรี*
 
           เมื่อผู้มีหน้าที่เสียภาษีได้ยื่นแบบแสดงรายการแล้ว หากยังไม่พ้นกำหนดเวลาการยื่นแบบฯ ย่อมสามารถยื่นแบบฯ เพิ่มเติมแก้ไขข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนได้ แต่กรณีพ้นกำหนดเวลาไปแล้ว ปรากฏเหตุเมื่อเจ้าพนักงานตรวจพบว่า ยื่นรายการไม่ถูกต้องหรือไม่บริบูรณ์ ย่อมมีอำนาจตรวจสอบไต่สวนตามประมวลรัษฎากร มาตรา 19 ซึ่งเป็นการประเมินเรียกเก็บภาษีโดยเจ้าพนักงานภายหลังกำหนดเวลายื่นแบบแสดงรายการ การเรียกตรวจสอบไต่สวนเมื่อผู้มีเงินได้ยื่นแบบแสดงรายการแล้วมีความสำคัญมาก เพราะเป็นการตั้งต้นของกรมสรรพากรที่จะดำเนินการกับผู้ต้องเสียภาษีตามมาตรา 19 โดยการออกหมายเรียกกรณียื่นรายการไม่ถูกต้องหรือไม่บริบูรณ์ โดยมีรายละเอียดเนื้อหานำเสนอดังนี้
1. หลักเกณฑ์และเงื่อนไข การออกหมายเรียก กรณียื่นรายการไม่ถูกต้องหรือไม่บริบูรณ์[1]
           เงื่อนไข กรณีที่เจ้าพนักงานประเมินมีเหตุอันควรเชื่อว่า ผู้ใดแสดงรายการตามแบบที่ยื่นไม่ถูกต้อง ตามความจริง หรือแสดงรายการตามแบบที่ยื่นไม่บริบูรณ์
           ผลตามกฎหมาย ให้เจ้าพนักงานประเมินมีอำนาจออกหมายเรียกผู้ยื่นรายการนั้นมาไต่สวน และ ออกหมายเรียกพยานกับสั่งให้ผู้ยื่นรายการหรือพยานนั้น โดย
                   (1) นำบัญชีเอกสารหรือหลักฐานอื่นอันควรแก่เรื่องมาแสดงได้ แต่ต้องให้เวลาล่วงหน้าไม่น้อยกว่าเจ็ดวันนับแต่วันส่งหมาย
                   (2) การออกหมายเรียกจะต้องกระทำภายในเวลาสองปีนับแต่วันที่ได้ยื่นรายการ ไม่ว่าการยื่นรายการนั้น จะได้กระทำภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดหรือเวลาที่รัฐมนตรีหรืออธิบดีขยายหรือเลื่อนออกไปหรือไม่ ทั้งนี้ แล้วแต่วันใดจะเป็นวันหลัง


* นักวิชาการสรรพากร ชำนาญการพิเศษ สำนักงานสรรพากรพื้นที่กรุงเทพมหานคร 22  รักษาการในตำแหน่งนิติกรเชี่ยวชาญ กองกฎหมาย  กรมสรรพากร
[1] กัมปนาท บุญรอด สรรพากรสาส์นปีที่ 60 ฉบับที่ 2 กุมภาพันธ์ 2556 หน้า 29